สรุปสถานการณ์ 3 จชต. ๑๗ - ๒๓ ธ.ค. ๕๙

 26 ธ.ค. 2559 13:13 น. | อ่าน 2653
Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Google+
PDF DOWNLOAD

๑. บทสรุปผู้บริหาร
      ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙ ข่าวเชิงบวกมีความถี่ลดลงกว่าสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙) ร้อยละ ๗ ในส่วนของข่าวเชิงลบมีความถี่คงที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙)
      ในสัปดาห์นี้ไม่มีประเด็นที่ส่งผลกระทบเชิงลบ
      ในส่วนของประเด็นเชิงบวก สรุปได้ดังนี้
      ๑) ประเด็นการเมือง ได้แก่ “พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมผู้แทนพิเศษแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ ๔/๕๙ พร้อมผู้แทนพิเศษจากกองอำนวยการรักษาความสงบภายในราชอาณาจักรภายในภาค ๔ ส่วนหน้า, ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้  เพื่อร่วมรับทราบแนวทางที่ทำให้การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเกิดความเป็นเอกภาพรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
      ๒) ประเด็น รปภ.ชีวิต/ทรัพย์สิน ได้แก่ ๑) เจ้าหน้าที่คุมเข้มตรวจสอบรถยนต์ และรถ จยย.ที่สัญจรเข้าออกในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา หลังมีข่าวแจ้งเตือนกลุ่มฮูไบดีล่ะห์เตรียมก่อเหตุ สร้างสถานการณ์ในย่านเศรษฐกิจในพื้นที่ ๓ จชต.  เพื่อตอบโต้ทำลายความเชื่อมั่นของภาครัฐ,     ๒) เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับเอเย่นต์ค้าสุราเถื่อน ขนยี่ห้อดังจากต่างประเทศกว่า ๓๐ ลัง, ๓) แฉแก๊งนายทุนตัดไม้หวงห้ามกลางป่าบูโด, และ ๔) ผบ.มทบ.๔๑ สั่งขยายผลจับกุมลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อน
      ๓) ประเด็นกีฬา ได้แก่ คอลัมน์: โฟกัสลูกหนังไทย: โฉมใหม่บอลอาชีพ-เช็กชื่อทีมลุยไทยลีก ๔
      ๔) ประเด็นวัฒนธรรม/วิถีชีวิต ได้แก่ คอลัมน์: Amazing AEC: ยังดี เปอร์ตวน อากง
      ๕) ประเด็นการสร้างความเข้าใจฯ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช.. พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย
      ๖) ประเด็นการศึกษา ได้แก่ นักเรียนไทยเจ๋ง คว้า ๒ เหรียญทองงานสิ่งประดิษฐ์ รวมนานาชาติที่เกาะฮ่องกง
      ๗) ประเด็นการช่วยเหลือประชาชน ได้แก่ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๑ และ ๑๒ ความว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี ให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำตาปี ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และลุ่มน้ำปัตตานี
      ๘) ประเด็นความร่วมมือของภาคประชาชน ได้แก่ ฉก.ร.๕ นำ ประชาชน ร่วมกิจกรรม หมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานชายแดนไทย-มาเลเซีย
      ๙) ประเด็นเศรษฐกิจฯ ได้แก่ ๑) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กำชับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ให้ระบายยางแผ่นรมควันอัดก้อน ยางแท่ง (เอสทีอาร์ ๒๐) และยางชนิดอื่นๆ ที่รับซื้อจากเกษตรกร สถาบันเกษตรกรประมาณ ๓.๑ แสนตัน จากโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรฯ และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ อย่างระมัดระวังไม่ให้กระทบกับยางในตลาด โดยระบายเป็นล็อตเล็กๆ ที่ กยท.ระบายยางช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสม เพราะจีนกำลังต้องการยาง หลังราคาน้ำมันโลกปรับขึ้น ส่งผลให้ราคายางปรับตัวดีขึ้นตาม และ ๒) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริม ความรู้ธุรกิจสตาร์ทอัพจังหวัดชายแดนภาคใต้ StartUp Deep South 2016 @ Yala
      ๑๐) ประเด็นยาเสพติด ได้แก่ นอภ.สุไหงปาดีล้างบางยาเสพติด ลั่นพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องปลดทันที
      ๑๑) ประเด็นสิทธิมนุษยชน ได้แก่ ศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดโครงการ A beautiful Children Rights Day : Child Protection ปีที่ ๒ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมจำนวนมาก ณ กองพัฒนากิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
      จากแนวโน้มดังที่กล่าว ทำให้ระดับผลกระทบต่อการรับรู้เชิงบวก (Positive Awareness Level) ในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๐ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙) ส่งผลให้ภาพลักษณ์เชิงบวกของสถานการณ์ ๓ จชต. ในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วเพียงเล็กน้อย
      ประเด็นสำคัญจากสื่อมวลชนต่างประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙ สรุปได้ดังนี้
      ประเด็นที่มีการรายงานกว้างขวางมากที่สุด คือ การจับกุมชาวมาเลเซีย ๒ คนพร้อมของกลางยาเสพติดประเภทเฮโรอีนและยาบ้าน้ำหนักรวมประมาณ ๑๐๐ กิโลกรัมซุกซ่อนในรถยนต์ที่จังหวัดชุมพร ก่อนที่จะนำไปส่งมอบให้ขบวนการค้ายาเสพติดที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อส่งต่อไปยังปลายทางที่เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย ประเด็นนี้ถูกรายงานโดยสื่อมวลชนมาเลเซียและสิงคโปร์
      ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคณะทำงานด้านเทคนิคมีการพูดคุยที่เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซียระว่างวันที่ ๑๙-๒๑ ธันวาคม ไม่พบรายงานข่าวในสื่อกระแสหลักในกลุ่มประเทศอาเซียนและสำนักข่าวระหว่างประเทศ (International news agency) แต่พบว่ามีรายงานข่าวการประชุมโดย Astora Jabat อดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์ Utusan Malaysia ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (facebook) ซึ่งมีสื่อออนไลน์ในประเทศไทยนำไปถ่ายทอดต่อในเวปไซต์ deepsouthwatch.org นอกจากนั้นก็มีรายงานข่าวของ benarnews.org ที่อ้างความเห็นของสมาชิกกลุ่ม BRN ปีกที่ไม่สนับสนุนการพูดคุยเพื่อสันติสุข ระบุว่า พวกเขาจะปฏิบัติการฉีกหน้า (discredit) แสดงจุดยืนไม่สนับสนุนกระบวนการพูดคุยด้วยการปฏิบัติการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ปลอดภัย (หากมีการจัดตั้ง) รวมทั้งมีการอ้างแหล่งข่าวระดับนโยบายของฝ่ายรัฐไทยในกรุงเทพ ระบุว่า กลุ่มที่เห็นต่างจากรัฐ (มาราปาตานี) ไม่มีอำนาจสั่งการกองกำลังในพื้นที่ จชต.

๒. ผลการวิเคราะห์สารสนเทศด้านการประชาสัมพันธ์ ประจำวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙
      ๒.๑ เปรียบเทียบแนวโน้มความถี่ การนำเสนอประเด็นข่าวเชิงบวก และประเด็นข่าวเชิงลบ

      ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙ ข่าวเชิงบวก (เส้นทึบสีเขียว) มีแนวโน้มความถี่ลดลง (y = -0.098ln(x) + 15.034) เฉลี่ยลดลงร้อยละ ๗ เมื่อเทียบสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙) ในส่วนของข่าวเชิงลบ ที่เกี่ยวข้อง จชต. (เส้นทึบสีแดง) มีแนวโน้มความถี่ค่อนข้างคงที่ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙)

      ๒.๒ ค่าสัดส่วนระหว่างข่าวเชิงบวก และข่าวเชิงลบ
      เมื่อนำจำนวนข่าวเชิงบวก และจำนวนข่าวเชิงลบ ในแต่ละวันมาคำนวณหาค่าสัดส่วน ระหว่างข่าวเชิงบวกกับข่าวเชิงลบ พบว่าในแต่ละวันจะมีค่าสัดส่วนฯ ดังแสดงในตารางด้านล่าง

วัน/เดือน/ปี

จำนวนข่าวเชิงบวก (1)

จำนวนข่าวเชิงลบ (2)

ค่าสัดส่วน (3)=(1)/(2)

2016-12-10

18

1

18.00

2016-12-11

5

0

5.00

2016-12-12

20

2

10.00

2016-12-13

9

3

3.00

2016-12-14

23

0

23.00

2016-12-15

21

0

21.00

2016-12-16

12

3

4.00

ค่าสัดส่วนเฉลี่ย

12.00

2016-12-17

12

2

6.00

2016-12-18

13

1

13.00

2016-12-19

17

1

17.00

2016-12-20

15

3

5.00

2016-12-21

24

1

24.00

2016-12-22

11

1

11.00

2016-12-23

8

0

8.00

ค่าสัดส่วนเฉลี่ย

12.00

หมายเหตุ: ยิ่งค่าสัดส่วนระหว่างจำนวนข่าวเชิงบวก กับจำนวนข่าวเชิงลบ (3) มีค่าสูง ก็จะมีผลทำให้ระดับผลกระทบต่อการรับรู้เชิงบวก (Positive Awareness Level) มีระดับสูงตามไปด้วย ในทำนองตรงกันข้าม หากค่าสัดส่วนฯ มีค่าต่ำ ก็จะมีผลทำให้ระดับผลกระทบเชิงบวก (Positive Awareness Level) จะมีระดับต่ำตามลงไปด้วย

๓. แนวโน้มในประเด็นที่เพ่งเล็ง ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙
      ๓.๑ ประเด็นการพูดคุยเพื่อสันติสุข

            ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค. ๕๙ ไม่ปรากฏข่าวเชิงบวกและข่าวเชิงลบในประเด็นการพูดคุยเพื่อสันติสุข มาเป็นเวลากว่า ๔ สัปดาห์แล้ว (๒๖ พ.ย.– ๒๓ ธ.ค.๕๙)
      ๓.๒ ประเด็นเหตุร้ายรายวัน

      ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙  ไม่ปรากฏภาพข่าวในประเด็นเหตุร้ายรายวัน เมื่อเทียบสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙  ) ภาพข่าวในประเด็นเหตุร้ายรายวัน

      ๓.๓ ประเด็นการเมือง

      ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙ ข่าวเชิงบวกในประเด็นการเมืองเกี่ยวกับ จชต. มีแนวโน้มความถี่เพิ่มขึ้น (y = 0.3103ln(x) + 0.156) ในช่วงปลายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม จำนวนข่าวเชิงบวกน้อยกว่าสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙) ร้อยละ ๓๓ ในส่วนข่าวเชิงลบในประเด็นการเมืองเกี่ยวกับ จชต. มีแนวโน้มความถี่เพิ่มขึ้น (y = 0.1602ln(x) - 0.074) เฉลี่ยร้อยละ ๑๐๐ (สัปดาห์ที่แล้ว มีข่าวเชิงลบ ๑ ข่าว แต่ในสัปดาห์นี้ มี ๒ ข่าว) ภาพข่าวเชิงบวกในประเด็นการเมืองที่เกี่ยวข้องกับ จชต. ได้แก่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมผู้แทนพิเศษแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ ๔/๕๙ พร้อมผู้แทนพิเศษจากกองอำนวยการรักษาความสงบภายในราชอาณาจักรภายในภาค ๔ ส่วนหน้า, ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้  เพื่อร่วมรับทราบแนวทางที่ทำให้การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเกิดความเป็นเอกภาพรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นต้น ภาพข่าวเชิงลบได้แก่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ได้พูดมาให้ฟังในตอนก่อนว่า อย่าดีแต่ส่งกำลังไปปราบปรามพวกก่อเหตุร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในแต่ละครั้ง โดยไม่คิดอ่านในวิธีการทำงานให้เป็นระบบ ทั้งในภาครัฐและภาคประชาชนในพื้นที่ อย่างที่ชอบทำกันอยู่ในขณะนี้ ทั้งๆ ที่ปัญหาที่ชายแดนใต้นั้นได้เคยมีการทำงานเพื่อแก้ไขจนเกิดความสงบได้เมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็กลับมาเกิดเรื่องกันอีกเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาถึงขณะนี้ เป็นต้น

      ๓.๔ ประเด็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิต/ทรัพย์สิน

      ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙  ข่าวเชิงบวก ในประเด็น รปภ.ในชีวิต/ทรัพย์สิน มีแนวโน้มความถี่ลดลง (y = -0.193ln(x) + 1.7046) ในช่วงปลายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ความถี่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจำนวนข่าวเชิงบวกในสัปดาห์นี้ จึงมากกว่าสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙) ร้อยละ ๑๑ และในช่วง ๒ สัปดาห์ที่ผ่านมา (๑๐ – ๒๓ ธ.ค.๕๙) ไม่ปรากฏภาพข่าวเชิงลบในประเด็นการ รปภ.ชีวิต/ทรัพย์สิน ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ ๑) เจ้าหน้าที่คุมเข้มตรวจสอบรถยนต์ และรถ จยย.ที่สัญจรเข้าออกในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา หลังมีข่าวแจ้งเตือนกลุ่มฮูไบดีล่ะห์เตรียมก่อเหตุ สร้างสถานการณ์ในย่านเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จว.ภาคใต้ เพื่อตอบโต้ทำลายความเชื่อมั่นของภาครัฐ, ๒) เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับเอเย่นต์ค้าสุราเถื่อน ขนยี่ห้อดังจากต่างประเทศกว่า ๓๐ ลัง, ๓) แฉแก๊งนายทุนตัดเหี้ยนไม้หวงห้ามกลางป่าบูโด, และ ๔) ผบ.มทบ.๔๑สั่งขยายผลจับกุมลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อน เป็นต้น

      ๓.๕ ประเด็นเศรษฐกิจและการสร้างรายได้

      ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙  ข่าวเชิงบวก ในประเด็นเศรษฐกิจและการสร้างรายได้ มีแนวโน้มความถี่ลดลง (y = -0.338ln(x) + 3.6076) เฉลี่ยลดลงร้อยละ ๓๘ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙  ) ในส่วนของข่าวเชิงลบ มีแนวโน้มความถี่ลดลง (y = -0.231ln(x) + 0.4871) เฉลี่ยลดลงร้อยละ ๑๐๐ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙) กล่าวคือไม่มีข่าวเชิงลบในประเด็นเศรษฐกิจฯ ในสัปดาห์นี้  ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ ๑)  พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กำชับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ให้ระบายยางแผ่นรมควันอัดก้อน ยางแท่ง (เอสทีอาร์ ๒๐) และยางชนิดอื่นๆ ที่รับซื้อจากเกษตรกร สถาบันเกษตรกรประมาณ ๓.๑ แสนตัน จากโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรฯ และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ อย่างระมัดระวังไม่ให้กระทบกับยางในตลาด โดยระบายเป็นล็อตเล็กๆ ที่ กยท.ระบายยางช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสม เพราะจีนกำลังต้องการยาง หลังราคาน้ำมันโลกปรับขึ้น ส่งผลให้ราคายางปรับตัวดีขึ้นตาม และ ๒) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริม ความรู้ธุรกิจสตาร์ทอัพจังหวัดชายแดนภาคใต้ StartUp Deep South 2016 @ Yala เป็นต้น

      ๓.๖ ประเด็นสิทธิมนุษยชน
            ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นสิทธิมนุษยชน
      ๓.๗ ประเด็นการบำรุงขวัญกำลังพล
            ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙ มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นการบำรุงขวัญกำลังพล ๑ ข่าว ได้แก่ ข่าวจากคอลัมน์ ใบตองแห้ง (นสพ.ข่าวสด) โดยประเด็นของข่าวก็คือ “อันที่จริง ตั้งแต่อดีต ทหารยึดมั่นหลักขึ้นตามไลน์ จาก ผู้หมวด ผู้กอง ผู้พัน เป็นผู้การ ต้องเติบโตจากหน่วยนั้น ไม่ใช่ย้ายข้ามห้วยแบบตำรวจทองหล่อไปยะลาได้ ไม่ใช่เป็น เสธ.หน้าห้องนายแล้วโดดมาแย่งตำแหน่งเพื่อนที่ทำงานแทบตาย แต่ไม่รู้ระยะหลังเป็นไง ปัญหาระบบบังคับบัญชา ถ้าจะแก้กันจริงๆ ลองใช้ระบบคณะเสนาธิการร่วมไหมครับ เคยมีงานวิจัยไว้เยอะ แต่กองทัพก็คงรับไม่ได้”
      ๓.๘ ประเด็นเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหา จชต.
            ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นเทคโนโลยีการแก้ไขปัญหา จชต.
      ๓.๙ ประเด็นการบังคับใช้กฎหมาย
            ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นการบังคับใช้กฏหมาย

๔. ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้สูง และแนวโน้มระดับผลกระทบต่อการรับรู้เชิงบวก
      ๔.๑ ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้สูง

ในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙  ไม่มีประเด็นที่ส่งผลกระทบเชิงลบ ในส่วนของประเด็นเชิงบวก สรุปได้ดังนี้
      ๑) ประเด็นการเมือง ได้แก่ “พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมผู้แทนพิเศษแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ ๔/๕๙ พร้อมผู้แทนพิเศษจากกองอำนวยการรักษาความสงบภายในราชอาณาจักรภายในภาค ๔ ส่วนหน้า, ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้  เพื่อร่วมรับทราบแนวทางที่ทำให้การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเกิดความเป็นเอกภาพรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
      ๒) ประเด็น รปภ.ชีวิต/ทรัพย์สิน ได้แก่ ๑) เจ้าหน้าที่คุมเข้มตรวจสอบรถยนต์ และรถ จยย.ที่สัญจรเข้าออกในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา หลังมีข่าวแจ้งเตือนกลุ่มฮูไบดีล่ะห์เตรียมก่อเหตุ สร้างสถานการณ์ในย่านเศรษฐกิจในพื้นที่ ๓ จชต.  เพื่อตอบโต้ทำลายความเชื่อมั่นของภาครัฐ,     ๒) เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับเอเย่นต์ค้าสุราเถื่อน ขนยี่ห้อดังจากต่างประเทศกว่า ๓๐ ลัง, ๓) แฉแก๊งนายทุนตัดไม้หวงห้ามกลางป่าบูโด, และ ๔) ผบ.มทบ.๔๑ สั่งขยายผลจับกุมลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อน
      ๓) ประเด็นกีฬา ได้แก่ คอลัมน์: โฟกัสลูกหนังไทย: โฉมใหม่บอลอาชีพ-เช็กชื่อทีมลุยไทยลีก ๔
      ๔) ประเด็นวัฒนธรรม/วิถีชีวิต ได้แก่ คอลัมน์: Amazing AEC: ยังดี เปอร์ตวน อากง
      ๕) ประเด็นการสร้างความเข้าใจฯ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช.. พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย
      ๖) ประเด็นการศึกษา ได้แก่ นักเรียนไทยเจ๋ง คว้า ๒ เหรียญทองงานสิ่งประดิษฐ์ รวมนานาชาติที่เกาะฮ่องกง
      ๗) ประเด็นการช่วยเหลือประชาชน ได้แก่ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๑ และ ๑๒ ความว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี ให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำตาปี ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และลุ่มน้ำปัตตานี
      ๘) ประเด็นความร่วมมือของภาคประชาชน ได้แก่ ฉก.ร.๕ นำ ประชาชน ร่วมกิจกรรม หมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานชายแดนไทย-มาเลเซีย
      ๙) ประเด็นเศรษฐกิจฯ ได้แก่ ๑) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กำชับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ให้ระบายยางแผ่นรมควันอัดก้อน ยางแท่ง (เอสทีอาร์ ๒๐) และยางชนิดอื่นๆ ที่รับซื้อจากเกษตรกร สถาบันเกษตรกรประมาณ ๓.๑ แสนตัน จากโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรฯ และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ อย่างระมัดระวังไม่ให้กระทบกับยางในตลาด โดยระบายเป็นล็อตเล็กๆ ที่ กยท.ระบายยางช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสม เพราะจีนกำลังต้องการยาง หลังราคาน้ำมันโลกปรับขึ้น ส่งผลให้ราคายางปรับตัวดีขึ้นตาม และ ๒) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริม ความรู้ธุรกิจสตาร์ทอัพจังหวัดชายแดนภาคใต้ StartUp Deep South 2016 @ Yala
      ๑๐) ประเด็นยาเสพติด ได้แก่ นอภ.สุไหงปาดีล้างบางยาเสพติด ลั่นพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องปลดทันที
      ๑๑) ประเด็นสิทธิมนุษยชน ได้แก่ ศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดโครงการ A beautiful Children Rights Day : Child Protection ปีที่ ๒ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมจำนวนมาก ณ กองพัฒนากิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา

      ๔.๒ แนวโน้มระดับผลกระทบต่อการรับรู้ (Awareness Level: AI)

      จากจำนวนข่าวเชิงบวกและข่าวเชิงลบ ซึ่งก่อให้เกิดค่าสัดส่วนฯ และค่าระดับผลกระทบการรับรู้ ที่แตกต่างกันในแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวที่ส่งผลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ในระดับสูง นำไปสู่การเกิดขึ้นของแนวโน้มระดับผลกระทบการรับรู้ ของผู้รับข่าวสาร ให้เป็นไปตามแนวโน้มดังกล่าว  โดยในช่วงวันที่ ๑๗ – ๒๓ ธ.ค.๕๙  พบว่า แนวโน้มระดับผลกระทบต่อการรับรู้เชิงบวก (Positive Awareness Level) ในภาพรวม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (y = 0.0722ln(x) + 2.495) ร้อยละ ๑๐ จากแนวโน้มดังกล่าว ส่งผลให้ภาพลักษณ์เชิงบวกของสถานการณ์ ๓ จชต. ในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว (๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙) เพียงเล็กน้อย

๕. ประเด็นสำคัญจากสื่อมวลชนต่างประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงวันที่ ๑๐ – ๑๖ ธ.ค.๕๙
     
ประเด็นที่มีการรายงานกว้างขวางมากที่สุด คือ การจับกุมชาวมาเลเซีย ๒ คนพร้อมของกลางยาเสพติดประเภทเฮโรอีนและยาบ้าน้ำหนักรวมประมาณ ๑๐๐ กิโลกรัมซุกซ่อนในรถยนต์ที่จังหวัดชุมพร ก่อนที่จะนำไปส่งมอบให้ขบวนการค้ายาเสพติดที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อส่งต่อไปยังปลายทางที่เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย ประเด็นนี้ถูกรายงานโดยสื่อมวลชนมาเลเซียและสิงคโปร์
      ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคณะทำงานด้านเทคนิคมีการพูดคุยที่เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซียระว่างวันที่ ๑๙-๒๑ ธันวาคม ไม่พบรายงานข่าวในสื่อกระแสหลักในกลุ่มประเทศอาเซียนและสำนักข่าวระหว่างประเทศ (International news agency) แต่พบว่ามีรายงานข่าวการประชุมโดย Astora Jabat อดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์ Utusan Malaysia ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (facebook) ซึ่งมีสื่อออนไลน์ในประเทศไทยนำไปถ่ายทอดต่อในเวปไซต์ deepsouthwatch.org นอกจากนั้นก็มีรายงานข่าวของ benarnews.org ที่อ้างความเห็นของสมาชิกกลุ่ม BRN ปีกที่ไม่สนับสนุนการพูดคุยเพื่อสันติสุข ระบุว่า พวกเขาจะปฏิบัติการฉีกหน้า (discredit)แสดงจุดยืนไม่สนับสนุนกระบวนการพูดคุยด้วยการปฏิบัติการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ปลอดภัย (หากมีการจัดตั้ง) รวมทั้งมีการอ้างแหล่งข่าวระดับนโยบายของฝ่ายรัฐไทยในกรุงเทพ ระบุว่า กลุ่มที่เห็นต่างจากรัฐ (มาราปาตานี) ไม่มีอำนาจสั่งการกองกำลังในพื้นที่ จชต.
      ๕.๑ สำนักข่าวเบอนามาของทางการมาเลเซียและสื่อมวลชนมาเลเซียหลายสำนักรวมทั้ง Strait Times สื่อสิงคโปร์ รายงานข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับกุมชายชาวมาเลเซีย ๒ คนพร้อมของกลางยาเสพติดประเภทเฮโรอีนน้ำหนัก ๕๒ กิโลกรัมและยาบ้า (methamphetamine) น้ำหนัก ๔๑ กิโลกรัม ซุกซ่อนในรถยนต์ โดยการจับกุมเกิดขึ้นเวลาประมาณ ๘ นาฬิกา วันที่ ๑๑ ธันวาคม ที่ด่านตรวจตำรวจ จังหวัดชุมพร
      สำนักข่าวเบอนามา อ้างคำให้สัมภาษณ์ของรักษาการผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้งสองขนยาเสพติดจากกรุงเทพมุ่งหน้าไปที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อส่งมอบยาเสพติดให้กับแก๊งค์ค้ายาเสพติดลำเลียงต่อไปยังปลายทางที่เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยในรายงานข่าวระบุว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาสองคนนี้ มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาที่ผู้ต้องหาชาวมาเลเซียหลายครั้งเมื่อตรวจสอบดูก็พบว่าเป็นโทรศัพท์ที่ติดต่อมาจากเกาะปีนัง
      รายงานข่าวการจับกุมแก๊งค์ค้ายาเสพติดมาเลเซีย ปรากฏในสื่อมาเลเซียและสิงคโปร์วันที่ ๑๘ และ ๑๙ ธันวาคม
มาข้อมูล ; http://www.thestar.com.my/news/nation/2016/12/19/msian-drug-couriers-held-in-thailand-they-were-caught-with-100kg-heroin-and-meth/
http://www.themalaymailonline.com/malaysia/article/two-malaysian-mules-caught-with-90kg-of-drugs-in-thailand
http://www.bernama.com/bernama/v8/newsindex.php?id=1312673
http://www.straitstimes.com/asia/se-asia/two-malaysians-arrested-in-thailand-over-drugs-haul-report

      ๕.๒ เวปไซต์ benarnews.org รายงานเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ว่า สมาชิกกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ปฏิบัติการในพื้นที่ จชต.ไม่สนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขและประกาศว่าจะก่อความรุนแรงในพื้นที่ปลอดภัย (หากมีการจัดตั้ง) ทั้งนี้รายงานข่าวของ benarnews ระบุว่า การพูดคุยระหว่างตัวแทนรัฐไทยกับตัวแทนกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า (๑๙-๒๑ ธันวาคม)  แหล่งข่าวระดับปฏิบัติการของกองกำลังบีอาร์เอ็น บอกสำนักข่าว benarnews ว่า พวกเขาจะฉีกหน้า (discredit)กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข โดยการปฏิบัติการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย

(Moreover, said the source, BRN operatives would continue to discredit the talks with MARA Patani by carrying out armed operations in districts designated as “safety zones.”)

      สำนักข่าว benarnews อ้างแหล่งข่าวระดับนโยบายของรัฐไทยที่กรุงเทพ ระบุว่า มาราปาตานีไม่มีอำนาจสั่งการกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ จชต. อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยก็ยังคงพยายามประสานและชักชวนให้กลุ่มบีอาร์เอ็นตัวจริง (real BRN) เข้าร่วมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข

(“MARA Patani does not have any influence on combatants on the ground but, nevertheless, the Thai government will continue to engage them in the current arrangement of unofficial dialogue with the hope that the process will lure the real BRN to the table,” a senior policy official in Bangkok told BenarNews.)

      แหล่งข่าว บอกว่า เขาเชื่อว่าคนเชื้อสายมลายูมุสลิมในพื้นที่ จชต. จะมีปฏิกริยาเป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มบีอาร์เอ็นเมื่อถึงวันที่พวกเขารู้สึกเหนื่อยหน่ายกับความรุนแรงในพื้นที่ และมีทัศนะคติว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนเป็นอุปสรรคขัดขวางกระบวนการสันติภาพ

(“We believe the local Malay Muslims will eventually turn against the BRN if and when they become tired of the violence and see the separatist organization as one that is against peace,” said the official, who spoke on condition of anonymity.)
ที่มาข้อมูล ; http://www.benarnews.org/english/news/thai/talks-preview-12162016143409.html#.WFah6xp6kss.facebook

            ๕.๒.๑ นอกจากนี้พบว่ามีการใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ (Facebook) รายงานการพูดคุยของตัวแทนรัฐไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่าง ในการประชุมระดับคณะกรรมการด้านเทคนิค ที่ เมืองมะละกา ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ ธันวาคม โดย Astora Jabat อดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มาเลเซีย (Utusan) ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่า การประชุมของคณะทำงานด้านเทคนิค ครั้งที่แล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน Astora ก็ติดตามรายงานความคืบหน้าของการพูดคุย โดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ Abu Hafiz al-Hakim โฆษกของกลุ่มมาราปาตานี จึงเป็นที่เชื่อได้ว่า กลุ่มมาราปาตานี จัดตั้งให้ Astora เป็นช่องทางสื่อสารข้อมูลข่าวสารของกลุ่มเพื่อส่งต่อข้อมูลถึงสื่อมวลไทยที่ติดตามกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข
      ในการพูดคุยระดับคณะกรรมการด้านเทคนิค ครั้งนี้ Astora รายงานข้อมูลในด้านบวกที่สนับสนุนกระบวนการพูดคุยโดยระบุว่า การพูดคุยเพื่อจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยในพื้นที่ จชต.มีความคืบหน้าร้อยละ ๘๐
      ทั้งนี้พบว่า การรายงานความคืบหน้าการพูดคุยเพื่อสันติสุขโดย Astora มีการนำไปรายงานต่อในเวปไซต์ deepsouthwatch.org ของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ชายแดนใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมีข้อความดังนี้
การพูดคุยสันติภาพรัฐไทย-มาราปาตานีราบรื่น ผลถกพื้นที่ปลอดภัยคืบหน้า 80 %
Submitted by Astora Jabat on Wed, 2016-12-21 10:18

     
กัวลาลัมเปอร์ 21 ธันวาคม - การพูดคุยสันติภาพ/สันติสุขเดินหน้าทิศทางที่ถูกต้องแล้วโดยหยิบยกประเด็นการสร้างพื่นที่ปลอดภัยมาถกคุยบนโต๊ะเจรจา แต่อย่างไรก็ตามประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่เรียกร้องให้สร้างพื้นที่ปลอดภัยต้องทำใจหน่อย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับพื้นปลอดภัยนี้ยังอยู่ในขั้นตอนแรกของการเคลื่อนไหวเพื่อจะสร้างให้เกิดมาขึ้นมา ถึงแม้ผลการเจรจาบนโต๊ะคืบหน้าไปแล้วมากว่า 80% เพราะการเอาลงจากโต๊ะเจรจามาปฏิบัติในพื้นที่ไม่ใช่เรื่อง่าย และต้องผ่านขั้นตอนอีกมากมาย
      แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือบอกผู้เขียนว่า การพูดคุยช่วงเช้าเมื่อวานเป็นการตรวจสอบ และยืนยันรายงานการประชุม (meeting minutes) เกิ่ยวกับประด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกันการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยสันติภาพ/สันติสุข ที่รัฐปีนัง เมื่อวันที่ 21-22 พฤษจิกายนที่ผ่านมา.
      ส่วนช่วงบ่ายก็มีการพูดคุยต่อเรื่องเฟรมเวิร์ค ของพื้นที่ปลอดภัยที่จะสร้างขึ้นมา.
      อย่างไรก็ตามผู้เขียนไม่สามารถรายงานข่าวรายละเอียดผลพูดคุยสันติภาพ/สันติสุขวัน 19-20 ธันวาคม เพราะทั้งสองฝ่ายต้องการให้เก็บเป็นความลับก่อน ไม่อยากพวก spoilers ออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้ทำลายบรรยากาศการพูดคุยสันติภาพ/สันติสุขที่คืบหน้าไปมากตอนนี้
      แหล่งข่าวเดียวกันบอกผู้เขียนว่า ทั้งสองฝ่ายจะออกมาแถลงข่าวเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จสิ้นไปแล้ว หลังจากได้รับการรับรองอนุมัติในการพูดคุยสันติภาพ/สันติสุขคณะใหญ่ที่จะมีขึ้นปีหน้า….
ที่มาข้อมูล ; http://deepsouthwatch.org/node/9966

เกณฑ์ในการอ่านค่าสัมประสิทธิ์กร๊าฟเส้น

ช่วงของค่าสัมประสิทธิ์

ความหมายของค่าสัมประสิทธิ์

มากกว่า 2.00

เพิ่มมาก

1.10 – 2.00

เพิ่มค่อนข้างมาก

0.60 – 1.00

เพิ่มในระดับหนึ่ง

0.10 – 0.50

เพิ่มเล็กน้อย

0.02 – 0.09

เพิ่มเพียงเล็กน้อย

0.00 – 0.01

ค่อนข้างคงที่

(-0.01) – 0.00

ค่อนข้างคงที่

(-0.09) – (-0.02)

ลดเพียงเล็กน้อย

(-0.50) – (-0.10)

ลดเล็กน้อย

(-1.00) – (-0.60)

ลดในระดับหนึ่ง

(-2.00) – (-1.10)

ลดค่อนข้างมาก

น้อยกว่า (– 2.00)

ลดมาก

 

Comment
SOUTHDEEPOUTLOOK.com - Thailand South Deep News

An Internal Error Has Occurred.

Error: An Internal Error Has Occurred.